-วิธีการบูรณะและแก้ไขความสวยงามให้กับผู้ป่วยโดยตรงในช่องปาก โดยการใช้ วัสดุอุดฟันที่มีสีเหมือนฟันธรรมชาติ เป็นวิธีที่ได้รับความนิยมมาก เนื่องจากเป็นวิธีที่ง่าย ค่าใช้จ่ายไม่สูง วัสดุที่ใช้มีหลายชนิด เช่น gicement , resin modified glass lonomer cement , compomer , giomer แต่วัสดุที่เป็นที่นิยมที่สุด ได้แก่ composite resin เนื่องจากมีสีใกล้เคียงกับสีฟันธรรมชาติ มีความแข็งแรงเพียงพอที่จะใช้ได้ ทั้งในฟันหน้า และฟันหลัง

วิธีการนี้สามารถใช้แก้ไขได้ในกรณี class iii , iv , v restoration , การปิด diastema , การแก้ไขฟันที่หม่นหรือซ้อนเก , ฟันที่เป็น florosis หรือ hypop-pastic enamel , การอุดฟันหลัง ในกรณีที่ผู้ป่วยต้องการ แต่ต้องเป็น กรณีที่ cavituy มีขนาดเล็ก ถึงปลานกลาง ถ้า cavity มีขนาดใหญ ่ควรพิจารณาวิธี lndjrect tooth color filling นอกจากนี้ยังมีการใช้ composite resin ในการทำ djrect composite veneer ได้แต่มักพบปัญหาตามมาในเรื่องการสึกกร่อนของวัสดุ การ แต่งรูป ฟันทำได้ยาก การรั่วซึมในขอบ และการติดสีง่าย แต่มีข้อดีคือ ค่าใช้จ่ายไม่สูง และสามารถซ่อมแซมได้ง่าย สิ่งที่สำคัญอีกสิ่งหนึ่งของ วิธีนี้คือต้องควบคุมขั้นตอนการทำงานให้ถูกต้อง ,ควบคุมความชื้นให้ดีเพื่อป้องกัน ให้เกิดผลข้างเคียงที่น้อยที่สุดไม่ว่าจะเป็น postoperative temsitivity , วัสดุอุดฟันหลุดหรือมีการรั่วซึมตามขอบ และทำให้งานของเราม ีคุณภาพและสวยงาม ตามที่ผู้ป่วยต้องการ รอยยิ้มที่ดูเป็นธรรมชาติ ไม่เห็นรอยบิ่นบริเวณปลายฟันหน้า

วัสดุที่นิยมใช้ในปัจจุบันมี 2 ชนิด คือ composite และ ceramic สำหรับ composte resit มีข้อดีคือ ค่าใช้จ่ายต่ำ ซ่อมแซมได้ง่าย ไม่ทำลายงานคู่สบ ขัดแต่งได้ง่ายและมีความเรียบมัน แต่มีข้อเสียคือ สึกกร่อนได้ง่าย มีโอกาสรั่วซึมตามขอบสูง ติดสีง่าย ในขณะที่ ceramic มีข้อดีคือ มีความแข็งแรงสูง สวยงามเหมือนธรรมชาติมากกว่า , ต้านทานการสึกกร่อนได้ดี , ติดสียาก แต่มีข้อเสียคือ ซ่อมแซมยากหากมีการแตกหัก , ขั้นตอนการผลิตยุ้ง ยาก และค่าใช้จ่ายสูง